Foodpanda ปิดกิจการในไทย: เจาะลึกสาเหตุและผลกระทบ พร้อมส่องรายได้ย้อนหลัง

สร้างความตกใจไปทั่ววงการเมื่อ Foodpanda ประเทศไทย ประกาศยุติการให้บริการเดลิเวอรี่ผ่านแอปพลิเคชันอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 พฤษภาคม 2568 หลังดำเนินธุรกิจในไทยมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 2555 ภายใต้สัญลักษณ์หมีแพนด้าอันเป็นที่จดจำ

Foodpanda เริ่มต้นจากการเป็นบริการสั่งอาหารผ่านเว็บไซต์และโทรศัพท์ ก่อนจะพัฒนาสู่แพลตฟอร์มเดลิเวอรี่ครบวงจร พร้อมขยายบริการครอบคลุมการรับอาหารเองที่ร้าน (Pick-up), ทานที่ร้าน (Dine-in) และสั่งซื้อสินค้าจากซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้าต่างๆ (Mart)

เราได้ตรวจสอบข้อมูลผลประกอบการย้อนหลังของบริษัท เดลิเวอรี่ ฮีโร่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจ Foodpanda ในไทย จากฐานข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่าบริษัทประสบปัญหาขาดทุนสุทธิมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงปี 2562-2564 ที่ตัวเลขขาดทุนสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่ารายได้รวมจะเติบโตในบางปีก็ตาม

สรุปผลประกอบการ Foodpanda ย้อนหลัง (บาท):

ปีรายได้รวมขาดทุนสุทธิ
2558121,453,406.7798,672,494.69
2559135,083,182.8393,255,166.65
2560210,210,534.2139,567,154.80
2561258,950,064.48138,795,390.50
2562818,156,828.371,264,503,583.82
25634,375,128,919.003,595,901,657.00
25646,786,566,010.004,721,599,978.00
25653,628,053,048.003,255,107,979.00
25663,843,303,372.00522,486,848.00

ในปี 2566 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 1,587,608,698 บาท แต่มีหนี้สินรวมสูงถึง 15,194,027,466 บาท ซึ่งอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่การตัดสินใจยุติกิจการในที่สุด

การปิดตัวของ Foodpanda จะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งาน, ร้านอาหารพาร์ทเนอร์, และพนักงานของบริษัทอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผู้บริโภคอาจต้องมองหาแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่อื่นทดแทน ในขณะที่ร้านอาหารอาจต้องปรับตัวและพึ่งพาช่องทางการขายอื่นๆ มากขึ้น