เข้าใจโรคโนโรไวรัส
โนโรไวรัส คือเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดการอักเสบของระบบทางเดินอาหาร ทำให้เกิดอาการท้องเสีย อาเจียน ปวดท้อง และไข้ต่ำ การติดเชื้อมักเกิดจากการบริโภคอาหารหรือน้ำดื่มที่ปนเปื้อนเชื้อ หรือการสัมผัสกับผู้ป่วยโดยตรง เชื้อไวรัสชนิดนี้แพร่กระจายได้รวดเร็วและทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดี ทำให้การป้องกันเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
อาการของโรคโนโรไวรัส
- ระบบทางเดินอาหาร: ท้องเสียรุนแรง ถ่ายเหลว อาเจียน คลื่นไส้ ปวดท้อง
- อาการทั่วไป: ไข้ต่ำ ปวดเมื่อย ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย
สาเหตุและการแพร่กระจาย
- อาหารและน้ำดื่ม: เชื้อมักปนเปื้อนในอาหารทะเลดิบ ผักผลไม้ที่ล้างไม่สะอาด และน้ำดื่มที่ไม่ได้ผ่านการฆ่าเชื้อ
- การสัมผัส: การสัมผัสกับผู้ป่วยโดยตรง หรือการสัมผัสกับสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อ แล้วนำมือเข้าปาก
การป้องกันเชื้อโนโรไวรัส
- ล้างมือ: ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำก่อนรับประทานอาหาร หลังเข้าห้องน้ำ และหลังสัมผัสสิ่งสกปรก
- ปรุงอาหารให้สุก: อุณหภูมิในการปรุงอาหารต้องสูงพอที่จะฆ่าเชื้อโรคได้
- บริโภคอาหารที่สะอาด: เลือกซื้ออาหารที่สดใหม่และปรุงสุก
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ป่วย: หากมีคนในบ้านป่วย ควรแยกภาชนะใช้สอยและหมั่นทำความสะอาดบริเวณที่ผู้ป่วยใช้
การรักษา
- รักษาตามอาการ: เนื่องจากไม่มียาต้านไวรัสโดยเฉพาะ การรักษาจึงมุ่งเน้นไปที่การบรรเทาอาการ เช่น การดื่มน้ำเกลือแร่เพื่อทดแทนน้ำที่สูญเสีย และรับประทานอาหารอ่อนๆ
- ป้องกันภาวะแทรกซ้อน: ผู้ป่วยควรพักผ่อนให้เพียงพอ และสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด หากอาการรุนแรงขึ้น เช่น อาเจียนรุนแรง ถ่ายเหลวมากจนร่างกายขาดน้ำ หรือมีไข้สูง ควรรีบไปพบแพทย์
คำแนะนำเพิ่มเติม
- ทำความสะอาดพื้นผิว: ทำความสะอาดพื้นผิวที่สัมผัสบ่อย เช่น โต๊ะ เก้าอี้ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ
- การระบาดในชุมชน: หากพบการระบาดในชุมชน ควรแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเพื่อดำเนินการควบคุมโรค
การป้องกันที่ดีที่สุดคือการรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคลและสิ่งแวดล้อมให้สะอาด